หลังจากที่เราได้ทราบข่าวเรื่อง ปอท. จะทำการขอตรวจสอบประวัติการใช้และข้อมูลส่วนตัว สำหรับผู้ใช้งาน LINE ในประเทศไทย ซึ่งในกรณีนี้นั้น มันก็เหมือนกับเหรียญ 2 ด้านครับ โดยขยายความได้ ดังนี้
กรณีที่ NEVER ยอมให้ความร่วมมือ และยอมเปิดเผยข้อมูลให้กับ ปอท.
กรณีนี้จะทำให้ ปอท. นั้นสามารถเข้าถึงข้อมูลได้ และสามารถอ่านประวัติการสนทนาได้ทั้งหมด ในกรณีนี้ ก็จะมีหลายๆคนออกมาแสดงความคิดเห็น ยกตัวอย่าง
ไม่เห็นจะเป็นไรเลย หากเราไม่ได้ทำผิด จะไปกลัวอะไร
ยอมไม่ได้ เรื่องส่วนตัว ข้อมูลส่วนตัวของเรา จะให้ใครมารู้ได้ไง ยอมไม่ได้ๆ
ในที่นี้ผมจะไม่ขอถึงข้อกฏหมายแบบละเอียดนะครับ แต่เท่าที่รู้ๆกันว่า “การตรวจค้นและเข้าถึงข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้น จำเป็นต้องใช้หมายศาล” การประทำนี้ ปอท. กำลังที่จะเข้าถึงสิทธิส่วนบุคคล เพราะว่าบุคคลทุกคนมีสิทธิเท่าเทียมกัน การเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวของคนอื่น โดยที่ไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของ และเจ้าของนั้นยังไม่ได้กระทำความผิด เป็นการก้าวก่ายสิทธิส่วนบุคคลของผู้อื่น
หากใช้ในการจับโจรจริง ก็แล้วไป แล้วถ้าไม่ได้ใช้แบบนั้นอย่างเดียวหล่ะ?
หลายๆคนคงตั้งคำถามนี้กันเยอะ ว่าเอาไว้จับโจรอย่างเดียวหรอ หรือต้องการรู้ว่า “ตอนนี้ สังคมต้องการอะไร กำลังพูดถึงเรื่องอะไร กำลังพาดพิงเจ้านายคนไหน” เพราะว่าการกระทำนี้ จะทำให้เราสามารถความเคลื่อนไหวของสังคม เรื่องส่วนตัว และความเป็นมาต่างๆได้หมด ให้ลองสังเกตอะไรดีๆ เมื่อ 4-5 เดือนก่อน มีกรณีการ Hack เว็บไซต์ของหน่วยงานของรัฐหลายๆหน่วยงาน เช่น กระทรวงศึกษาธิการ,กระทรวงวัฒนธรรม และที่เป็นกระเด็นดังๆก็คือ “Hack เว็บสำนักนายกรัฐมนตรี” ทั้ง 2 หน่วยงานที่โดน Hack ไปนั้น หลังจากที่โดน Patch เว็บเพื่ออุดช่องโหวไป ก็หายไปจากศาลระบบเลย แต่ไออย่างหลังนี่สิ ทำไมถึงต้องกวานหากันให้ซะแหม่ แถมเป็นข่าวดังไปซะทั่วโลก เพราะอะไร?
จนป่านี้แล้วก็ยังไม่ได้คำตอบ แถมเรื่องการสอบส่วนที่ครุมเครืออยู่หลายๆอย่าง ของ ปอท. ที่หาเรื่องหาแพะมารับบาป โดยที่ไม่ยอมเอาหลักฐานออกมาเป็นเผย แค่เพียงบอกเฉยๆ ว่า “มีหลักฐาน” แต่ก็ไม่ได้แสดงอะไรออกมา
เริ่มมีคนถามว่า “แล้วมันเกี่ยวอะไรกับเรื่อง LINE นี่หล่ะ” เกี่ยวสิครับ ผมกำลังจะพูดถึงต่อไปนี้ หลังจากที่ ปอท. ได้รับบทเรียนใน Case ของ Hack เว็บสำนักนายกรัฐมนตรี หลังจากนั้นก็หาทาง และพยายามเรียกร้องขอความร่วมมือที่จะดูข้อมูลต่างๆ เพราะว่าเดี่ยวนี้ เทคโนโลยี Anonymous เริ่มเยอะ ตามจับตัวเริ่มยาก และอีกอย่างก็ไม่สามารถคาดเดาอะไรได้ เนื่องจากข้อมูลใน Internet สมัยนี้เป็น Private หมด อีกอย่าง “ก็จะได้รู้ว่า ใครคิดอะไร กำลังทำอะไร และมีผลอะไรต่อตัวเอง พวกพ้อง และเจ้านายบ้าง” นี่แหละครับ คือประเด็น
หาก NEVER ไม่ยอมให้ความร่วมมือกับ ปอท. ในการเปิดเผยข้อมูลผู้ใช้งานคนไทย
บางคนที่ความลับเยอะ ชอบนินทาต่างๆนาๆ ก็จะสะบายใจไปครับ เพราะทาง NEVER มีจุดยืนเหมือน Google Wikipedia และอีกหลายๆองค์กร ที่มีการต่อต้านเรื่องการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล จนพยายามที่จะป้องกันตัวเอง ไม่ให้สามารถถูกดักฟังได้ ส่วนทาง ปอท. ก็จะล้มเหลวในการเข้าถึงข้อมูลของ LINE และจะต้องทำงานหนัก กว่าจะได้ข้อมูลหลายๆอย่างออกมา เพราะว่าหากทาง NEVER ยอมเปิดเผยข้อมูล ปอท. ก็แค่นั่งส่อง Log files , Chat Logs ไม่ต้องสืบหาอะไรให้เสียเวลา กลายเป็นงานสบายไปเลยทีเดียว
ที่สำคัญ หาก NEVER ไม่ยอมเปิดเผยข้อมูล คนไทยก็ยังมีสิทธิและเสรีภาพในการแสดงความเห็นบนโลก Cyber ผ่าน Application “LINE” เหมือนเดิมครับ
มีความเป็นไปได้หรือไม่ ที่ NEVER จะยอมเปิดเผยข้อมูลให้ ปอท.
ตอนนี้ตอบได้เลยว่า 50/50 ครับ เพราะว่าตอนนี้ NEVER เริ่มเจาะตลาดประเทศไทยเข้ามาแล้ว อีกอย่างการเจาะตลาดในประเทศ จะต้องทำการให้ความร่วมกับผู้บริหารประเทศนั้นก่อน ซึ่งก็เป็นไปได้ว่า ทาง NEVER อาจจะให้ความร่วมมือนี้กับ ปอท. ก็ได้ แต่ในแง่บริษัท ความน่าเชื่อถือของคนไทยที่มีต่อบริษัท NEVER ของจะสูญเสียลงไปไม่น้อยเลยทีเดียวหล่ะครับ เพราะคนส่วนใหญ่นั้น ให้ความสำคัญกับสิทธิส่วนบุคคล ยกตัวอย่างเช่น ถ้าคุณกำลังคุยกะใครอยู่สักคน แล้วมีคนที่คุณไม่รู้จักหรือใครไม่รู้ มานั่งดูคุณพิมพ์ข้อความอยู่ คุณจะรู้สึกยังไง คงไม่ต้องอธิบายนะ
กรณีนี้ไม่ได้มีเฉพาะประเทศเรานะครับ ในอเมริกา ก็มีหน่วยงานที่ชื่อ NSA พยายามเข้าถึงข้อมูลการใช้งานต่างๆ ของผู้ให้บริการ Social Network หลายๆเจ้า โดยที่ประชาชนตาดำๆอย่างเราไม่รู้ (สงสัย ปอท. กำลังเดินตามรอย NSA เป็นแน่แท้ ^^)
บอกก่อนนะครับ บทความนี้เป็นแค่การแสดงความคิดเห็นส่วนบุคคล โดยอ้างอิงจากข้อมูลที่เป็นอยู่นะครับ