ด้วยความที่ตัวเองต้องดูแล Server หลายชุด ไม่ว่าจะเป็น Virtual machine หรือว่า Physical เวลา MA เครื่องนี่ต้องคอยมานั่งตรวจสอบว่า มี Service ตัวไหนดับไปบ้าง คราวนี้แหละครับ ลำบากเลย โดยลูกค้าทักเรื่อง Service ดับอยู่เรื่อยๆ จนได้มารู้จักกับ Nagios
หลังจากรู้จัก Nagios แล้ว ก็มาใล่ศึกษาการ Config ตัว Nagios อีก อ่านไปอ่านมายิ่งเข้าไปใจกันไปใหญ่ เพราะการตั้งค่าส่วนใหญ่จะต้องผ่านการแก้ไขไฟล์ Config ของตัว Nagios โดยตรง โดยตัว Nagios จะมีแค่ตัว Web Application สำหรับแสดงสถานะของ Server และ Service ต่างๆเท่านั้น คราวนี้แหละ มืดแปดด้านเลยทีเดียว เลยต้องล้มโครงการนี้ไป
เมื่อวันเวลาผ่านไปสักระยะนึง ก็ได้รู้จักกับ NagiosQL ซึ่งเป็นซอฟแวร์สำเร็จรูป ที่ช่วยเราเขียน Config File ของตัว Nagios หลังจากที่ลองใช้งานไปสักพัก ใช้เวลาลองผิดลองถูกอยู่ไม่นานครับ ก็สามารถติดตั้งตัว NagiosQL ให้ทำงานร่วมกับ Nagios 3 ได้ครับ
โดยตัว NagiosQL นั้นเป็น Web Application ครับ ใช้ฐานข้อมูล MySQL ในการจัดเก็บข้อมูล โดยตัว NagiosQL สามารถ Import Configuration จาก Nagios แล้วนำมาแปลงเป็น Format ของตัวเอง บันทึกลงใน MySQL ได้ครับ หลังจากที่เราปรับแต่งและตั้งค่าต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น เพิ่มเครื่อง Host เพิ่ม Service หรืออะไรก็ตามใน NagiosQL เสร็จ คุณสามารถกดปุ่มเพียงปุ่มเดียว เพื่อให้ NagiosQL สร้างไฟล์ Configuration ของ Nagios และย้ายมันไปไว้ใน Directory ของ Nagios อัตโนมัติ และหลังจากกระบวนการทุกอย่างเสร็จสิ้น เราก็สามารถ Restart Service Nagios ผ่าน Web Application ของตัว NagiosQL ได้อีกด้วย
หลายๆท่านคงจะสงสัยว่า Configuration ที่ตัว NagiosQL สร้างขึ้นมาให้นั้น แน่ใจได้อย่างไรว่ามันถูกต้อง สามารถทำงานได้? คุณไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องนี้เลยครับ ตัว NagiosQL สามารถทดสอบ Configuration ที่เราสร้างผ่าน NagiosQL ได้ว่า สามารถทำงานได้หรือไม่ เกิดความขัดแย้งส่วนไหนหรือไม่ หรือมีการ Config ส่วนไหนที่ไม่ถูกต้อง ตัว NagiosQL ก็สามารถแสดงออกมาได้
จะเห็นได้ว่า ตัว NagiosQL นั้น ช่วยประหยัดเวลาในการ Config ตัว Nagios ลงไปเยอะ แถมใช้งานและสะดวกมากๆครับ ลองไปโหลดมาเล่นหรือศึกษาเพิ่มเติมได้ครับที่ http://www.nagiosql.org/