ผมเชื่อว่าหลายๆคน ก็ตั้งคำถามเหมือนกับหัวข้อของเรื่องนี้กันนะครับ เพราะว่านับวัน เด็กก็สนใจในเรื่องไอทีและเลือกเรียนด้านคอมพิวเตอร์ก็เยอะ แต่ทำไมผมถึงออกมาพูดว่า “ประเทศไทยขาดแคลน Programmer” วันนี้เราจะมาวิเคราะห์กันครับ ว่าทำไม เพราะอะไร และต้องแก้ปัญหาอย่างไร
เห็นรูปด้านบนไหมครับ แล้วลองบอกความรู้สึกของคุณ เวลามอง Code พวกนี้ดู ว่ารู้สึกอย่างไร??
ผมเชื่อว่า หลายคนคงบอกว่า “มืนหัว” , “ไม่เห็นจะน่าสนใจ” , “อะไรของมัน” หรืออะไรทำนองนี้ ครับ เด็กคอมฯก็รู้สึกเหมือนพวกคุณเหมือนกันครับ บางคนก็เอ่ยขึ้นมาว่า “เอ้า เรียนคอมก็ต้องเรียนเขียน Code ด้วยหนิ มีสิทธิ์อะไรที่จะเบื่อ Code พวกนี้”
ต้องบอกก่อนนะครับ ว่าคอมพิวเตอร์มันมีหลายสายงาน ไม่ว่าจะเป็น Programmer,Network Engineer,Support,Tester,Computer Graphics เป็นต้น ซึ่งก็หมายถึงว่า พวกที่เรียนมีสิทธิ์ที่จะ “เลือก” ที่อยากจะเป็น ว่าต้องการเป็นอะไร ว่าตัวเองถนัดอะไร โดยส่วนใหญ่แล้ว “Programmer” จะมาเป็นอย่างสุดท้าย เพราะว่ายุ่งยากที่สุด และน่าเบื่อที่สุด
ผมในฐานนะที่เรียนด้านนี้เหมือนกัน อยากจะบอกว่า Coding เป็นอะไรที่นักศึกษาใน Class เบืื่อมากๆ เมื่ออาจารย์เริ่ม Coding เมื่อไหร่ ก็จะมีคนหลับบ้าง ไม่สนใจบ้าง แต่พอเวลาสอบนี่สิ หัวยุ่งกันเป็นแถบ เพราะ Coding เป็นอะไรทีละเอียดอ่อน คุณผิดเพียงแค่ตัวอักษรเดียว Program ที่คุณเขียนออกมา มันก็สามารถทำงานได้แล้ว ซึ่งถ้าใจไม่รักแล้ว ยากครับ
ส่วนมากแล้ว คนที่สนใจ Coding จริงๆ ก็คือคนที่ “ใจรัก” และ “ใจพยายาม” เท่านั้นแหละครับ ที่จริงแล้วมันก็เหมือนกับวิชาคณิตศาสตร์นั้นแหละ มีสมการ เป็นอะไรที่ตายตัว แต่เนื่องจากว่า มันก็มีส่วนของวิชาศิลปะ มีเรื่องของจิตวิญญาณและไอเดียร์อยู่บ้าง เพราะการ Create งานแต่ละงานออกมาได้ จำเป็นต้องใช้อารมณ์ และความคิดควบคู่กันไป
สายงานนี้จะทำงานเป็นที่เป็นทางไม่ได้ เพราะว่าการอยู่ในที่ที่ซ้ำๆ เดิมๆ จำทำให้ไอเดียร์ในการทำงานไม่เกิด งานที่จะออกมา จะซ้ำๆ ซากๆ จำเจ ถ้าคุณไม่เชื่อในทฤษฏีนี้ ให้คุณนึกถึง office ของบริษัทใหญ่ๆ อย่าง google,facebook,twitter ดูครับ
[ ด้านบนเป็นรูปของ Office Google และ Facebook ]
จะเห็นได้ว่า บริษัทพวกนี้พยายามจัด Office ให้ดูเหมือนห้องพักผ่อนมากที่สุด เพื่อให้พนักงานเหมือนกับว่าพักผ่อน และเปลี่ยนบรรยากาศการทำงานไปในตัวได้ด้วย ซึ่งทำให้เล็งเห็นความสำคัญของ Programmer ว่าสำคัญแค่ไหน
แล้วประเทศไทยหล่ะ??
จากประสบการณ์ ผมยังไม่เคยเห็นประเทศไทย มีบริษัทไหน จัด office แบบนี้เลยสักบริษัท อย่าลืมว่า สภาพแวดล้อม มีผลต่องานที่จะออกมาเหมือนกัน สภาพแวดล้อมที่หน้าเบื่อ + อาชีพที่ต้องใช้แรงบรรดาใจ ทำให้มันไปกันไม่รอด
ไม่ต้องสงสัยเลย ว่าทำไมพวก Programmer ชอบตลอนๆ ไม่อยู่กับที่ ชอบเทียวไปเทียวมา ขี้บ่น เพราะต้องการอะไรใหม่ๆ ต้องการไอเดียรใหม่ๆ ในการสร้างผลงานใหม่ๆที่ออกมาดูดีที่สุด
อีกปัจจัยนึงของการส่งเสริมอาชีพ Programmer คือ “สถานศึกษา”
คุณจะโชคดีมาก ที่ได้เรียนในโรงเรียนที่มีการส่งเสริมการเขียนโปรแกรมตั้งแต่ยังเด็กๆ เพื่อปลูกฝังการรักใน Coding ตั้งแต่เด็กๆ แต่การศึกษาไทย มันไม่ใช่ครับ การไปเรียน คุณต้องเรียนวิชาพื้นฐาน (ซึ่งไม่รู้ว่าตูเรียนมาแล้ว มันจะได้เอามาใช้หรือไม่) ซึ่งไม่เหมือนกับต่างประเทศ ซึ่งเขาจะส่งเสริมความสามารถต่างๆ ตั้งแต่ยังเด็กๆ เพื่อให้บุคลากรของเขา มีประสิทธิภาพสูงสุดไปเฉพาะด้าน ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีมาก แต่การศึกษาไทย ยังนิยมต้องเรียนตามหลักสูตรพื้นฐาน ต้องเรียนวิชาอะไรก็ไม่รู้ ไม่รู้ว่าอนาคตจะต้องใช้หรือไม่ และมีการปลูกฝังอะไรผิดๆ ให้กับเด็ก จนเด็กบางคนมีปมตั้งแต่เด็กๆ ในเรื่องเรียน เรื่องการแข่งขัน
เรียนสายคอม แต่จะทำยังไงให้รักใน Coding เพื่อต่อยอดไปยัง Programmer
อันนี้บอกตรงๆ “คุณต้องเล่นกับ Coding ตั้งแต่เด็กๆ” ครับ ถึงจะได้ผลสูงสุด เพราะตอนเด็กๆ เราจะปลูกฝังอะไรในตัวเองได้ง่าย เรียนรู้เร็ว
ไม่แปลกเลยที่ Mark Zuckerberg (created Facebook) จับคอม ป.6 และสร้าง Facebook ขึ้นมาตอนอยู่ ปี 2
Jack Dorsey (created Twitter) จับคอมพิวเตอร์แมคอินทอช์ตอนอายุ 8 ขวบ
Bill Gates (created microsoft) ใช้คอมพิวเตอร์ตอนอายุ 13 ปี
เพราะอย่างที่บอก การเป็นเด็ก สามารถปลูกฝังอะไรได้ง่าย พอแก่ตัวขึ้นมาก็ไม่อยากจะรับรู้อะไรอีกแล้ว เบื่อ อยากทำอะไรที่มันสบายๆ ทางเดียวที่จะช่วยได้คือ “พยายามศึกษา” ไปเรื่อยๆ พอความรู้เริ่มพอจะสร้างสรรค์อะไรสักอย่าง ให้คุณ “ลองฝันว่าอยากทำอะไรกับคอมพิวเตอร์” แล้ว “ใช้ความรู้ที่ศึกษามา สร้างมันขึ้นมา” และหากเรื่องไหนติดขัด หรือไม่รู้ ก็ลองไปถามเพื่อนที่รู้ หรือถามอากูก็ได้ พองานสำเร็จ คุณจะรู้สึก “ภูมิใจ” และ “มีกำลังใจจะทำมันต่อไป”
Mark Zuckerberg พูดไว้ว่า “การเริ่มเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ไม่ได้เริ่มจาก การเรียนทุกอย่างในชั้นเรียนหรืออยากจะเก่งมันทุกอย่าง แต่เป็นการทำอะไรให้คนรอบข้าง สามารถสนุกกับมัน หากต้องการอะไรใหม่ๆ ก็สามารถหาอ่านได้ในอินเตอร์เน็ตเพื่อเพิ่มความสามารถให้เรา”
สุดท้ายนี้ อยากให้ดู Video ด้านล่างนี้ เพื่อเป็นการตัดสินใจ …