หลังจากที่ Apple ปล่อย iOS 8.4 ให้กับผู้ใช้งานทั่วไปใช้งานกัน โดยตัว iOS 8.4 จะมีการอัพเดตแอป Music ในระบบใหม่ โดยมีการเพิ่มส่วนของ Apple Music เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของแอป Music เลย ผมก็เลยได้มีโอกาสลองใช้งาน Apple Music ดู (ปกติผมใช้งานบริการฟังเพลงออนไลน์ของ Spotify เป็นหลัก)
Apple Music เป็นบริการฟังเพลงออนไลน์แบบเหมาจ่าย (เหมือน Spotify ในต่างประเทศ ในบ้านเราก็มี KKBOX กับ Deezer) โดยตัว Apple Music นั้น ถูกแยกออกจากร้านขายเพลง iTunes Store นะครับ ซึ่งหมายความว่า เพลงที่มีขายใน iTunes Store ก็ใช่ว่าจะมีให้ฟังใน Apple Music ทุกเพลงนะครับ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับค่ายเพลงว่า ต้องการส่งเพลงขึ้นมา Streaming ใน Apple Music หรือไม่
ค่าบริการของ Apple Music เมื่อเทียบกับค่าบริการปกติของบริการฟังเพลงออนไลน์อื่นๆ (ไม่รวมพวกโปรโมชันกับค่ายมือถือ) ถือว่าถูกที่สุดแล้ว โดยราคาของ Apple Music นั้น จะแตกต่างกันไปตามภูมิภาคต่างๆ โดยมีให้เลือก 2 แบบครับ
- แบบรายบุคคล อันนี้เป็นแบบใช้คนเดียว ราคาจะอยู่ที่ $4.99 ต่อเดือน (ประมาณ 170 บาทต่อเดือน)
- แบบครอบครัว โดยเป็นบริการที่แชร์ผ่าน Family Sharing สูงสุด 6 คน โดยราคาอยู่ที่ $7.99 (ประมาณ 270 บาท)
โดยจุดเด่นอยู่ที่ ค่าบริการแบบครอบครัว โดยราคาเมื่อเฉลี่ยแล้วตกอยู่ที่คนละ 70 บาทต่อเดือน ซึ่งถูกมากๆครับ หารกับเพื่อนๆ โครตจะคุ้มเลย
โดยผมจะทดลองและรีวิวให้ดู ทั้งบน iOS (iPhone/iPad) และ OSX (iTunes) ดูนะครับ
iOS (iPhone/iPad)
For You
หน้า For You จะเหมาะกับคนที่ชอบฟังเพลงต่างประเทศครับ (คนที่ชอบฟังเพลงไทยจะไม่มีประโยชน์สักเท่าไหร่) โดยระบบจะหาเพลงที่เหมาะกับแนวเพลงที่คุณชื่นชอบให้ โดยภาพรวมแล้ว สามารถทำได้ดีมากครับ หาได้ตรงตามแนวเพลงที่ต้องการ ถือว่าโอเคเลยทีเดียว
New
หน้านี้จะแสดงผลการอัพเดตต่างๆ ของเพลงและศิลปินต่างๆ หน้านี้ผมยังรู้สึกเฉยๆ เพราะเหมือนยังไม่มีประโยชน์สักเท่าไหร่ในหน้านี้ ต่างกับฝั่ง iTunes Store ที่แสดงผลเพลงอัพเดตใหม่ๆได้ค่อนข้างดี คาดว่าหน้านี้ Apple อาจจะปรับปรุงให้ดีขึ้นในอนาคตครับ
Radio
เมนูนี้จะเหมาะกับผู้ที่ชอบฟังเพลงสากลซะมากกว่าครับ เพราะจะมีช่องสถานีวิทยุออนไลน์ให้คุณเลือกฟังได้ตามแนวเพลงที่คุณต้องการ หรือคุณจะเลือกฟังเพลงจากสถานี B1 ซึ่งเป็นสถานีวิทยุที่มีดีเจจัดรายการจริงๆก็ได้เช่นกันครับ
Connect
ในส่วนของ Connect นั้นจะเป็นในส่วนของ Social Network ที่ทำให้เราสามารถติดตามการอัพเดตของศิลปินที่ชื่นชอบได้ อีกทั้งยังเป็นช่องทางหนึ่ง ที่ใช้ในการติดต่อกันระหว่างแฟนเพลงกับตัวศิลปินอีกด้วย
Playlist (iPad)
ส่วนนี้จะเป็นส่วนที่แสดง Playlist ของเราทั้งหมด โดยจะมีการ Sync Playlist ทั้งหมด ผ่าน iCloud ทำให้คุณสามารถอัพเดต Playlist และ เพลงต่างๆได้ จากอุปกรณ์ตัวใดก็ได้ จะทำให้อุปกรณ์ที่ลงชื่อเข้าใช้ตัว Apple ID ของคุณทั้งหมด อัพเดตตามกันไปด้วย โดยเมนูนี้จะมีเฉพาะ iPad ในส่วนของ iPhone จะถูกยุบรวมกับเมนู My Music
My Music
เป็นส่วนที่ใช้ในการจัดการ Library เพลงของเรา และ Playlist ของเรา (สำหรับ iPhone) โดยในหน้านี้จะเปิดโอกาสให้คุณลบ แก้ไข ดาวน์โหลดเพลงมาฟังแบบ Offline ได้จากหน้านี้ครับ และที่สำคัญ สามารถจัดการบัญชี Apple Music ของคุณได้จากเมนูนี้อีกด้วย
iTunes (OSX)
สำหรับตัว iTunes นั้น จะต้องอัพเกรด iTunes เป็นเวอร์ชัน 12.2.0.145 ก่อน จึงจะสามารถใช้งาน Apple Music ได้ครับ โดยตัว Apple Music จะถูกผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งของ iTunes ไปเลย โดยหากคุณลงชื่อเข้าใช้งานด้วย Apple ID อันเดียวกับ iPhone/iPad ของคุณ โปรแกรมจะ Sync Playlist มาไว้ใน iTunes ของคุณโดยอัตโนมัติครับ
ถ้าคุณมีเพลงใน Playlist อยู่แล้ว (MP3 ในเครื่องของคุณ) ตัว iTunes จะวิ่งเข้าไปหาไฟล์ใน Apple Music มาใส่ให้คุณใน Playlist แต่หาก iTunes ไม่พบเพลงดังกล่าวใน Apple Music ตัว iTunes จะทำการอัพโหลดไฟล์เพลงนั้นขึ้น iCloud ทันที (เหมือน iTunes Match)
ตัว iTunes ปรับในส่วนของการค้นหาใหม่ โดยมีการเพิ่มแท็บค้นหาเพลงใน Apple Music ขึ้นมา โดยคุณสามารถพิมพ์ชื่อเพลงที่คุณต้องการ แล้วเลือกแท็บ Apple Music ได้เลยครับ
ส่วนของเมนูต่างๆนั้น เหมือนกับตัวแอป Music ใน iOS ครับ การใช้งานนั้นเหมือนกัน และส่วนของแท็บ iTunes Store นั้น ก็จะเป็นเมนูสำหรับซื้อเพลงใน iTunes Store ครับ
การใช้งาน
ยอมรับในการใช้งานครับ ว่าการออกแบบนั้นยังใข้งานได้ยากอยู่ ผมไม่ค่อยชอบลูกเล่นที่อัพโหลดไฟล์ MP3 ในเครื่องของเราขึ้นไปบน iCloud สักเท่าไหร่ เพราะใช้เวลานานมากๆ และแอป Music ใน iOS นั้นชอบเอ่อหลายๆครั้ง กดปุมเพิ่มเพลงแล้วแอปก็ปิดตัวลงไปดื้อๆ และที่ซ้ำร้ายที่สุด คือมันเพิ่มเพลงซ้ำให้ผมไปประมาณหมื่นกว่าเพลงเลยทีเดียว 🙁
ระบบจัดการ Playlist ยังทำได้ไม่ดีเท่าที่ควร ผมเพิ่มเพลงเข้าไปใน Playlist แล้วไม่ยอมเข้าไปใน Playlist (แต่มีเพลงดังกล่าวอยู่ใน Library)
ในเรื่องของเพลงนั้น ก็ตามคาดครับ ไม่มีเพลงของ RS และ Grammy เจ้าใหญ่ของไทยเรา คาดว่าคงไปทำสัญญากับแอปฟังเพลงอื่นๆ (Deezer/KKBOX) แต่สำหรับเพลงค่ายอินดี้ต่างๆ ,เพลงเกาหลี,เพลงฝรั่ง มาเต็มครับ (ผมนิยกเลิก Spotify เลยทีเดียว)